
สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดรับสมัครสามเณรเพื่อขอรับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ ๒ (รุ่นที่ ๙) ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๘
หลักเกณฑ์และรายละเอียดการขอรับทุน
๑. ลักษณะทุนการศึกษา
๑) เป็นทุนการศึกษาต่อเนื่อง ให้ทุนการศึกษาต่อ ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จนจบระดับปริญญาตรี จํานวน ๙๐ ทุน ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
๒) อัตราทุนการศึกษาที่สนับสนุน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทุนละ ๒๕,๐๐๐ บาทต่อปี ๓) อัตราทุนการศึกษาที่สนับสนุน ระดับปริญญาตรี ทุนละ ๕๕,๐๐๐ บาทต่อปี
๒. คุณสมบัติของผู้สมัคร
ก. คุณสมบัติทั่วไป
๑) มีสัญชาติไทย
๒) เป็นสามเณร
๓) กําลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา และประสงค์จะเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ในปีการศึกษา ๒๕๖๘ ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา
๔) มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๒ ไม่ต่ํากว่า ๒.๕๐
๕) มีผลการสอบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม หรือ แผนกบาลี
๖) มีความประพฤติดี ขยัน ใฝ่เรียนรู้ และตั้งใจจะศึกษาต่อจนจบตามหลักสูตรระดับปริญญาตรี ในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยหรือวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
๗) ผู้ปกครองมีฐานะยากจน และมีความเต็มใจที่สนับสนุนยินยอมให้ศึกษาต่อจนจบ ตามหลักสูตรระดับปริญญาตรี
๘) มีสุขภาพแข็งแรง เป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และมีเจตคติที่ดีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีความมุ่งมั่นที่จะดําเนินชีวิตและช่วยพัฒนาท้องถิ่นของตนเมื่อสําเร็จการศึกษา
ข. ลักษณะต้องห้าม
๑) เป็นบุตรของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจํา
พนักงานหรือบุคคลผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานรัฐ
๒) ได้รับทุนการศึกษาต่อเนื่องใดๆ จนถึงระดับปริญญาตรี ยกเว้นทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา
เอกสารหลักฐานการสมัครขอรับทุน
๑) ใบสมัครขอรับทุนการศึกษา (แบบแนบท้ายประกาศ ๑) จํานวน ๑ ชุด พร้อมรูปถ่าย ขนาด ๑ x ๑.๕ นิ้ว จํานวน ๑ รูป
หรือนักธรรมชั้นเอก)
๒) สําเนาทะเบียนบ้าน และสําเนาหนังสือสุทธิ อย่างละ ๑ ฉบับ
๓) สําเนาระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และปีที่ ๒ จํานวน ๑ ฉบับ
๔) สําเนาใบประกาศนียบัตรผลการสอบการศึกษาพระปริยัติธรรม ดังนี้
– แผนกธรรม (ชั้นสูงสุด) จํานวน ๑ ฉบับ (กรณี สอบได้นักธรรมชั้นตรี หรือนักธรรมชั้นโท เปรียญธรรม ๓ ประโยค)
แผนกบาลี (ชั้นสูงสุด) จํานวน ๑ ฉบับ (กรณี สอบได้ประโยค ๑ – ๒ หรือ
๕) หนังสือรับรองความประพฤติจากโรงเรียน
๖) สําเนาใบประกาศผลงาน/รางวัลดีเด่น ที่ได้รับสูงสุด จํานวน ๑ ผลงาน/รางวัล โดยได้รับจากการประกวดหรือแข่งขันที่มิได้จัดขึ้นโดยสถานศึกษาของผู้สมัคร
๗) เอกสารการร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์ จิตอาสา
สําหรับสําเนาเอกสารหลักฐาน ให้ผู้สมัครเขียนคํารับรองว่า “สําเนาถูกต้อง” พร้อมลงชื่อในเอกสารทุกฉบับ ให้เรียบร้อย
๔. วัน เวลา สถานที่รับสมัครและส่งใบสมัคร
๑) รับสมัคร ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน – ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๗ โดยผู้มีคุณสมบัติข้างต้น และประสงค์จะสมัครขอรับทุนการศึกษา สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ทางเว็บไซต์สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
www.onab.go.th หรือติดต่อขอรับใบสมัครที่สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดในเขตพื้นที่ หรือกองพุทธศาสนศึกษา สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในวันและเวลาราชการ
๒) การส่งใบสมัครและเอกสารประกอบการพิจารณา ให้ยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ดังนี้
– ส่วนกลาง ยื่นใบสมัครที่กองพุทธศาสนศึกษา สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ตําบลศาลายา อําเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๗๓๑๗๐ โทร ๐ ๒๔๔๑ ๗๙๕๐
– ส่วนภูมิภาค ยื่นใบสมัครที่สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ในจังหวัดที่โรงเรียน พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ตั้งอยู่
๕. หลักเกณฑ์ และวิธีการคัดเลือก
สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกําหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกสามเณรเพื่อขอรับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ ๒ ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๘ ประกอบด้วย ๔ องค์ประกอบ รวม ๑๐๐ คะแนนเต็ม (แบบแนบท้ายประกาศ ๒) ดังนี้
๑) ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๒ (๓๐ คะแนน)
๒) สถานภาพทางครอบครัว (๓๐ คะแนน)
๓) การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม รวมกับ แผนกบาลี (๒๐ คะแนน)
๔) รางวัลดีเด่น การเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ จิตอาสา และความประพฤติ (๒๐ คะแนน)
๖. ขั้นตอนการคัดเลือก
๑) ให้กองพุทธศาสนศึกษา / สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดรวบรวมใบสมัคร จากโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ภายในเขตจังหวัด พร้อมทั้งพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้สมัครขอรับทุนการศึกษาให้ถูกต้อง
๒) ให้กองพุทธศาสนศึกษา / สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเสนอคณะกรรมการ พิจารณาคัดเลือกผู้ขอรับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ที่ผู้อํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาคัดเลือกสามเณรผู้สมัครขอรับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกสามเณรเพื่อขอรับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ ๒ ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๘ ตามจํานวนผู้ได้รับทุนฯ ของแต่ละจังหวัดพร้อมรายชื่อผู้ได้รับทุนประเภทสํารอง โดยให้แต่ละจังหวัด ส่งรายชื่อประเภทสํารองจํานวน ๒ เท่าของจํานวนผู้ได้รับทุนฯ เว้นแต่มีเหตุจําเป็นที่ไม่สามารถส่งรายชื่อ ผู้รับทุนฯ ได้
๓) ให้กองพุทธศาสนศึกษา / สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนํารายชื่อผู้ที่ได้รับ การพิจารณาคัดเลือกรับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารีและรายชื่อผู้ได้รับทุนประเภทสํารองตามวรรคก่อน เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เพื่อรับทราบและพิจารณาให้ข้อคิดเห็นก่อนส่ง รายชื่อ ใบสมัคร เอกสารแนบใบสมัคร ตารางการให้คะแนน (จัดทําเป็นไฟล์ Excel) และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดําเนินการพิจารณาและจัดสรรทุนการศึกษาต่อไป
๔) เมื่อสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับรายชื่อ ใบสมัคร เอกสารแนบใบสมัคร ตารางการให้คะแนน และเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว จะดําเนินการจัดลําดับสามเณรผู้ได้รับทุนฯ ตามจํานวน ผู้ได้รับทุนฯ ของแต่ละจังหวัด กรณีไม่ครบตามจํานวนทุนที่กําหนด สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะพิจารณารายชื่อจากสามเณรผู้ได้รับทุนฯ ประเภทสํารอง ตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกสามเณรเพื่อขอรับ ทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ ๒ ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๘ ให้ครบจํานวน ๙๐ ทุน ส่วนที่เหลือได้จัดลําดับไว้ เป็นประเภทสํารอง
๕) สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะประกาศขึ้นบัญชีรายชื่อสามเณรผู้ได้รับ ทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ ๒ (รุ่นที่ ๙) ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๘ จํานวน ๙๐ รูป และรายชื่อ สามเณรผู้ได้รับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ ๒ (รุ่นที่ ๙) ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๘ (ประเภทสํารอง) ทางเว็บไซต์สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ www.onab.go.th และมีหนังสือแจ้งสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด เพื่อประสานสามเณรผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ ๒ (รุ่นที่ ๙) ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๘ จํานวน ๙๐ รูป ให้ทราบและดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามระเบียบการรับทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ต่อไป
๗. เงื่อนไขเมื่อได้รับทุนการศึกษา
แผนกสามัญศึกษา
๑) ต้องเข้ารับการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนพระปริยัติธรรม
๒) ระดับปริญญาตรี ผู้ได้รับทุนต้องศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ได้แก่ มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย หรือวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
๓) ต้องเข้ารับการศึกษาอย่างต่อเนื่องจนจบระดับปริญญาตรีตามหลักสูตรและระยะเวลาที่สถานศึกษากําหนด และประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย ใช้จ่ายเงินทุนการศึกษาอย่างคุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด
๔) ต้องเข้าร่วมกิจกรรมที่สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกําหนด และเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อตอบแทนสังคม ชุมชน และสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างการรับทุนการศึกษา โดยให้ผู้รับทุนการศึกษา รายงานผลการร่วมกิจกรรมดังกล่าวเสนอต่อสถานศึกษาทุกปีการศึกษา และสถานศึกษาสรุปรายงานภาพรวม
เสนอสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก่อนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและก่อนจบการศึกษา
ระดับปริญญาตรี
๕) การรายงานเมื่อจบแต่ละปีการศึกษา
ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้สถานศึกษารายงานการใช้จ่ายทุนการศึกษา และผลการเรียนให้สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทราบ โดยผ่านสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ในระดับปริญญาตรี ให้ผู้ได้รับทุนรายงานการใช้จ่ายทุนการศึกษาและผลการเรียน ให้สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทราบ โดยการรับรองของอาจารย์ที่ปรึกษาหรือคณบดีที่กําลังศึกษาอยู่ พร้อมทั้งยื่นความประสงค์ที่จะขอรับทุนการศึกษาต่อ
๔. ทุนการศึกษาจะถูกระงับเมื่อ
๑) มรณภาพ
๒) พ้นสภาพการเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือลาสิกขา
๓) กระทําผิดกฎ ระเบียบ วินัยของสถานศึกษา และถูกลงโทษฐานความผิดตามระเบียบ ของสถานศึกษาอย่างร้ายแรง
๔) รับทุนการศึกษาต่อเนื่องจากแหล่งทุนอื่นๆ ยกเว้นทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา
๕) เมื่อสําเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว ไม่ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี
ในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย หรือวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
๖) ไม่เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมตามที่สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกําหนด เว้นแต่ กรณีมีเหตุสุดวิสัยและได้รับรองจากผู้ปกครอง หรือครูผู้ดูแลนักเรียนทุน