
คณะศึกษาศาสตร์ ม.ศิลปากร เดินหน้าขับเคลื่อน “พระปฐมเจดีย์” สู่เมืองแห่งการเรียนรู้ ด้วยพลังเครือข่าย และภูมิปัญญาท้องถิ่น
เปิดเวทีนำเสนอแนวทางวิจัยยกระดับคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สู่นครปฐมเมืองเรียนรู้ต้นแบบ
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดงาน “กำหนดนำเสนอชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการวิจัย พระปฐมเจดีย์ : การยกระดับคุณค่าเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อเป็นฐานไปสู่เมืองแห่งการเรียนรู้”โดยมี นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ให้เกียรติปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “แนวทางของจังหวัดนครปฐม ต่อการพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ บนฐานของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม” เพื่อร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาพื้นที่และชุมชนอย่างยั่งยืน ท่ามกลางหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคีเครือข่ายในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม ร่วมประชุมกันอย่างพร้อมหน้า ณ ห้องประชุมหลวงพ่อวัดไร่ขิงอุปถัมภ์ ชั้น 5 อาคารศึกษา 3 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568
โครงการวิจัยฉบับนี้มีเป้าหมายในการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์จังหวัดนครปฐม (พ.ศ. 2566–2570) ที่มุ่งยกระดับเมืองสู่ความเป็น “เมืองอัจฉริยะที่มีอัตลักษณ์” โดยเน้นบทบาทของนครปฐมในด้านการศึกษา การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาเมือง การวิจัยพบว่า แม้นครปฐมจะมีทรัพยากรทางวัฒนธรรมมากมาย โดยเฉพาะองค์พระปฐมเจดีย์และชุมชนโดยรอบที่เต็มไปด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านอาหารและสมุนไพร ทว่าเมืองยังขาดระบบข้อมูลเชิงพื้นที่ การเชื่อมโยงองค์ความรู้เข้าสู่หลักสูตรท้องถิ่น และเครื่องมือดิจิทัลเพื่อสื่อสารอัตลักษณ์เชิงวัฒนธรรมอย่างเป็นระบบ
ศาสตราจารย์ ดร.คณิต เขียววิชัย คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หัวหน้าคณะนักวิจัย เปิดเผยว่า โครงการฯ มีเป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่
(1) วิเคราะห์องค์ประกอบในการยกระดับคุณค่าเมืองประวัติศาสตร์
(2) พัฒนาองค์ความรู้เพื่อเสริมสร้างพลเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต
(3) สร้างคลังข้อมูลดิจิทัลและระบบ AI Chatbot เพื่อเชื่อมต่อแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่ และ
(4) วางระบบกลไกภาคีเครือข่ายผ่าน Core Team เพื่อขับเคลื่อนการเรียนรู้ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายใน 9 ตำบลภายในเขตเทศบาลนครนครปฐม
งานวิจัยนี้จึงมิใช่เพียงการศึกษาทางวิชาการ แต่เป็นการจุดประกายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา ชุมชน และเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนนครปฐมจาก “เมืองแห่งประวัติศาสตร์” ไปสู่ “เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต” อย่างมีอัตลักษณ์และพลังร่วม
#https://learninfinity.net/